คุณยายหาเข็มเย็บผ้า..
หญิงชราคนหนึ่ง กำลังหาอะไรสักอย่างใต้เสาไฟฟ้า ในช่วงกลางดึก ซึ่งตรงเสาไฟฟ้านั้นมีแสงสว่างส่องลงมา
ผู้หญิงคนนี้คลำหาไปทั่วบริเวณ ทั้งบนฟุตบาทและบนถนนแต่ก็หาไม่เจอ สักครู่หนึ่งก็มีหนุ่มสาวเดินผ่านมา “คุณยายครับ หาอะไรอยู่เหรอครับ จะให้พวกเราช่วยไหม?”
“เออ ช่วยยายหน่อยสิ ยายทำเข็มเย็บผ้าตกหล่นหายไป ช่วยยายหาหน่อย” พวกหนุ่มสาวก็ช่วยกันหาอยู่พักใหญ่ แต่ก็หาไม่เจอ “คุณยายครับ คุณยายพอจะจำได้ไหมครับว่าทำเข็มเย็บผ้าตกหล่นตรงไหน”
“เมื่อกี้นี้ ยายกำลังเย็บผ้าอยู่ในห้องของยาย แล้วยายก็ทำเข็มเย็บผ้าตกหล่นหายไป แต่ห้องของยายมันมืด ยายเลยมองไม่เห็น ตรงนี้มีแสงสว่าง ยายมองเห็นได้ชัดกว่า ยายก็เลยมาหาตรงนี้แหละ”
พอหนุ่มสาวได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะ แล้วก็บอกว่า..
“คุณยายครับ คุณยายกลับไปที่ห้องของคุณยายเถอะครับ เมื่อทำเข็มเย็บผ้าตกหล่นในห้องก็ต้องไปหาในห้อง จะไปหาที่อื่นไม่ได้หรอกครับ”
แล้วพวกเขาก็เดินจากไป
เรื่องนี้ก็คงไม่แตกต่างเท่าไรนักกับการศึกษา หรือการจัดการเรียนการสอนในปัจจุบัน โดยเฉพาะในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เราไม่พยายามหรือยังพยายามไม่มากพอก็เป็นได้ ที่จะแก้ปัญหา หรือคิดหาวิธีการแก้ไข เพื่อจะลดทอนงานของครูที่ไม่ใช่งานสอนในห้องเรียน ที่กำลังส่งผลให้เด็กไทยอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้มากขึ้น
หลายครั้งที่เราใช้นโยบายอันหลากหลาย แต่ก็มักจะแก้ไม่ถูกจุดหรือเกาไม่ถูกที่คันสักที
ศธ. สพฐ.เขตพื้นที่และโรงเรียน ไม่มีใครไม่รู้ว่าสาเหตุของปัญหาอยู่ตรงไหน? อย่าเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หากอยู่ในห้องแอร์แล้วยังคิดเรื่องที่ประเทืองปัญญาไม่ได้ ก็จงลงมาดูบริบทที่แท้จริง..
จึงจะเข้าใจได้แจ่มชัด อย่างน้อยก็อาจทำให้หูตาสว่างไสวขึ้นมาบ้างว่า ห้องน้ำครูและเด็กนั้น มันไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับ ”คุณภาพ” การศึกษา แต่อย่างใด.
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๔ เมษายน ๒๕๖๗
ไม่มีความเห็น