ราธชาดก


ธรรมดาบัณฑิตทั้งหลาย ย่อมไม่กล่าวคำจริงหรือไม่จริงที่ไม่ทำให้พ้นทุกข์ได้

ราธชาดก 

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]

ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑

๘. ราธชาดก (จากพระไตรปิฎก ลำดับเรื่องที่ ๑๙๘)

ว่าด้วยนกราธโพธิสัตว์

             (พราหมณ์ถามนกราธโพธิสัตว์ว่า)

             [๙๕] ลูกเอ๋ย พ่อเพิ่งกลับมาจากที่ค้างแรม มาถึงเดี๋ยวนี้เอง ยังไม่นานนักลูกเอ๋ย แม่ของเจ้าไม่ไปคบหาชายอื่นหรือ

             (นกราธโพธิสัตว์แจ้งให้พราหมณ์ทราบว่า)

             [๙๖] ธรรมดาบัณฑิตเมื่อกล่าวคำจริง แต่คำนั้นเป็นการกล่าวถึงความไม่ดีจะพึงหมกไหม้ เหมือนนกแขกเต้าชื่อโปฏฐปาทะหมกไหม้อยู่ที่เถ้าไฟในเตา

ราธชาดกที่ ๘ จบ

----------------------------

คำอธิบายเพิ่มเติมนำมาจากบางส่วนของอรรถกถา 

ราธชาดก

ว่าด้วย เรื่องจริงแต่ไม่ดีไม่ควรพูด

               พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุผู้กระสันรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
               ได้ยินว่า พระศาสดาตรัสถามภิกษุนั้นว่า ดูก่อนภิกษุ ได้ยินว่าเธอกระสันจริงหรือ ภิกษุนั้นกราบทูลว่า จริงพระเจ้าข้า ตรัสถามว่า เพราะเหตุไรเธอจึงกระสัน กราบทูลว่า ข้าพระองค์เห็นหญิงงดงามคนหนึ่ง จึงกระสันเพราะอำนาจกิเลส พระพุทธเจ้าข้า.
               ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะภิกษุนั้นว่า ดูก่อนภิกษุ ธรรมดามาตุคาม ใครๆ ก็ไม่อาจรักษาไว้ได้ แม้เมื่อก่อน เขาวางยามประตูรักษาไว้ ยังไม่อาจรักษาไว้ได้ เธอจะต้องการมาตุคามไปทำอะไร แม้ได้แล้วก็ไม่อาจรักษาไว้ได้ แล้วทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.
               ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์อุบัติในกำเนิดนกแขกเต้า ชื่อว่าราธะ. นกแขกเต้านั้นมีน้องชื่อโปฏฐปาทะ.
               พรานคนหนึ่งจับนกแขกเต้าสองพี่น้องในขณะยังอ่อนอยู่ ไปให้แก่พราหมณ์คนหนึ่งในกรุงพาราณสี. พราหมณ์เลี้ยงดูนกแขกเต้าไว้ในฐานะบุตร แต่นางพราหมณีของพราหมณ์เป็นหญิงไม่รักษาเนื้อรักษาตัว เป็นคนทุศีล. เมื่อพราหมณ์จะไปทำการค้า จึงเรียกลูกนกแขกเต้านั้นมาสั่งว่า แน่ะลูกพ่อ พ่อจะไปทำการค้า เจ้าทั้งสองคอยดูการกระทำของแม่เจ้า ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน พึงสืบดูว่า มีชายอื่นไปมาหรือไม่ ครั้นมอบหมายนางพราหมณีกับลูกนกแขกเต้าแล้วก็ไป.
               นางพราหมณีตั้งแต่พราหมณ์ออกไปแล้ว ก็ประพฤติอนาจาร. คนที่มาๆ ไปๆ ทั้งกลางคืนกลางวัน ช่างมากมายเหลือเกิน นกโปฏฐปาทะเห็นดังนั้น จึงถามนกราธะว่า พราหมณ์ได้มอบพราหมณีนี้แก่เราไว้แล้วจึงไป และนางพราหมณีนี้ก็ทำการน่าอดสู เราจะว่าแกดีหรือ. นกราธะตอบว่า อย่าว่าแกเลย น้อง. นกโปฏฐปาทะไม่เชื่อฟังคำของนกราธะ จึงไปต่อว่า นางพราหมณีว่า แม่ เพราะอะไร แม่จึงทำการน่าอดสูอย่างนี้. นางพราหมณีอยากจะฆ่านกโปฏฐปาทะนัก ทำเป็นรัก เรียกมาพูดว่า นี่ลูก เจ้าก็เป็นลูกของแม่ ตั้งแต่นี้ไปแม่จักไม่ทำอีก มานี่ก่อนซิลูก พอนกโปฏฐปาทะมา ก็ตะคอกว่าเจ้าพูดกะเรา เจ้าไม่รู้ประมาณตน แล้วบิดคอเสียจนตายโยนลงไปในเตา.
               พราหมณ์มาถึงพักผ่อนแล้ว เมื่อจะถามพระโพธิสัตว์ว่า แน่ะพ่อราธะ แม่ของเจ้าทำอนาจารหรือเปล่า จึงกล่าวคาถาแรกว่า :-
               ลูกรัก พ่อกลับมาจากที่ค้างแรม กลับมาเดี๋ยวนี้เอง ไม่นานเท่าไรนัก แม่ของเจ้าไม่ไปคบหาบุรุษอื่นดอกหรือ.
               นกราธะตอบว่า ข้าแต่พ่อ ธรรมดาบัณฑิตทั้งหลายย่อมไม่กล่าวคำจริง หรือไม่จริงที่ไม่ทำให้พ้นทุกข์ได้
               เมื่อจะแจ้งให้ทราบ จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
               ธรรมดา บัณฑิตไม่พูดวาจาที่ประกอบด้วยความจริง แต่ไม่ดี ขืนพูดไปจะต้องนอนอยู่ ดุจนกแขกเต้าโปฏฐปาทะถูกเผา นอนจมอยู่ในเตาไฟ ฉะนั้น.
               พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจธรรม ประชุมชาดก.
               เมื่อจบสัจธรรม ภิกษุผู้กระสัน ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล.
               นกแขกเต้าโปฏฐปาทะในครั้งนั้น ได้เป็น อานนท์ ในครั้งนี้
               แต่นกแขกเต้าราธะ คือ เราตถาคต นี้แล.

----------------------------------

 

คำสำคัญ (Tags): #นกแขกเต้าราธะ
หมายเลขบันทึก: 717972เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2024 04:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 เมษายน 2024 04:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท